การดูแลผิวกายเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจ เพราะการมีสุขภาพผิวที่ดีสามารถทำให้เรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีความเชื่อมั่นในตนเองและทำให้เรารู้สึกมีสุขภาพดีไปด้วย เมื่อเราดูแลผิวกายถูกต้อง จะช่วยให้ผิวพรรณของเราดูสว่าง สดใส
นอกจากนี้การดูแลสุขภาพผิวด้วยวิธีที่ถูกต้องยังเสมือนเป็นเกราะป้องกันอันตรายต่อร่างกายจากภายนอก เพราะผิวหนังเป็นอวัยวะที่เปิดสู่ภายนอก เป็นด่านแรกที่จะรับสารต่างๆ มากมายจากสิ่งแวดล้อมและผิวหนังเป็นอวัยวะที่มีพื้นที่ผิวมากที่สุดของมนุษย์ การดูแลผิวกายที่ถูกต้องจึงมีความจำเป็นและมีผลอย่างมากต่อสุขภาพกาย ในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการดูแลผิวกายที่ถูกต้องที่คุณสามารถปฏิบัติตามได้ในทุกๆ วัน
1. ทำความสะอาดผิวกายให้สม่ำเสมอ: การล้างหน้าและร่างกายทุกวันเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติในทุกวัน ควรล้างความสกปรกและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนผิวเป็นประจำทุกวันเพื่อความสะอาดและสุขภาพอนามัยที่ดี นอกจากการอาบน้ำทุกวันแล้ว ในแต่ละวันคุณไม่ควรสะสมสิ่งสกปรกหรือเรียกสั้นๆ ได้ว่า การหมักหมมร่างกาย หากสัมผัสสิ่งปฏิกูลหรือสารเคมีไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ให้ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดทันที และหลังจากเลิกงานเมื่อกลับถึงบ้านสิ่งแรกที่ควรทำก่อนการพักผ่อนคือการอาบน้ำชำระร่างกาย นอกจากเป็นการรักษาอนามัยผิวที่ดีแล้ว ยังทำให้พื้นที่ในบ้านของคุณสะอาด ลดการสะสมของเชื้อโรคได้อีกด้วย
2. การเลือกอุณหภูมิของน้ำในการอาบน้ำให้เหมาะสม: การอาบน้ำควรใช้น้ำเย็นสลับน้ำอุ่น ยกตัวอย่าง ในตอนเช้าคุณอาบน้ำเย็นในตอนเย็นคุณควรอาบน้ำอุ่นที่ไม่ร้อนเกินไป เพราะน้ำอุ่นช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้เลือดสูบฉีดดี ซึ่งดีต่อสุขภาพผิว แต่การอาบน้ำอุ่นประจำอาจทำให้ความชุ่มชื้นของผิวหนังลดลง ในบางคนการอาบน้ำอุ่นหรือร้อนประจำทำให้เกิดผิวหนังแห้งกร้านได้ การเลือกอุณหภูมิของน้ำในการอาบน้ำจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรเอาใจใส่ แต่ทั้งนั้นในการเลือกอุณหภูมิของน้ำในการอาบน้ำแต่ละครั้งควรพิจารณาถึงสภาพอากาศภายนอกด้วยเช่นกัน
3. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อสุขภาพผิวของคุณ: ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมีหลากหลายประเภท แต่ละสูตรตำรับมีสารต่างๆ มากมายที่แตกต่างกัน ซึ่งเหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนต่างกัน หากเป็นคนผิวมันควรเลือกใช้สูตรตำรับที่ไม่มีสัดส่วนของ oil หรือน้ำมันมากจนเกินไป อาจพิจารณาจากฉลากสินค้าที่เขียนคำว่าสูตรคุมมัน หรือ oil control เป็นต้น หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้การหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีหรือสารตกค้างที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เช่น สารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ควรสวมถุงมือหรือเสื้อผ้าที่รัดกุมจะสามารถช่วยป้องกันสารเคมีอันตรายได้ หรือสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีฉลากและได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติและปลอดสารตกค้าง
4. รักษาความชุ่มชื่นให้กับผิวกาย: คุณควรใช้โลชั่นหรือครีมบำรุงผิวที่ช่วยรักษาความชุ่มชื่นและความนุ่มของผิว เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ วัน หลังจากล้างทำความสะอาดผิวหรือหลังอาบน้ำ ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นหรือ Moisturiser นอกจากจะช่วยให้ผิวคุณนุ่มชุ่มชื่น ดูสุขภาพดี และไม่แตกแห้งเสียหายแล้ว ยังเป็นการช่วยทะนุบำรุงผิวให้สุขภาพดีในระยะยาวได้อีกด้วย หากหมั่นทาผลิตภัณฑ์ Moisturiser ที่มีคุณภาพเป็นประจำผิวคุณจะดูอ่อนเยาว์และสุจภาพดีอย่างแน่นอน
5. ป้องกันแสงแดด: การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สกินแคร์ (Skincare) หรือ Moisturiser ต่างๆ อาจไม่เพียงพอ หากคุณไม่ป้องกันผิวจากแสงแดด การปกป้องผิวหน้าและผิวกายจากแสงแดดมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากแสงแดดอาจทำให้เกิดอาการผิวแห้ง ริ้วรอย รอยแดง หมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และอาจเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งงผิวหนังได้ ควรพิจารณาใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด ไม่ว่าจะ เจล ครีม หรือ สเปรย์ ที่สามารถป้องกันแสงแดดได้ทั้งรังสี UVA และ UVB อีกทั้งในประเทศเขตร้อนและรังสี UV เข้มอย่างประเทศไทยควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มี SPF มากกว่า 50 จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันผิวจากแสงแดดได้ดีกว่า นอกจากใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่เหมาะสมแล้ว การสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกป้องผิว สวมแว่นตากันแดดและใส่หมวกกันแดดเมื่อออกนอกในช่วงเวลาที่แดดแรงก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยป้องกันอันตรายต่อผิวจากแสงแดดได้
6. รับประทานอาหารที่เหมาะสม: การดูแลผิวกายไม่เพียงแต่ด้านภายนอกเท่านั้น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์สำหรับผิวกายสามารถช่วยบำรุงและรักษาผิวได้อีกด้วย การรับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซี วิตามินเอ มาก เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้ง องุ่น แอปเปิ้ล ผลไม้ตระกูลส้ม ฝรั่ง มะละกอ เป็นต้น จะช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี เพราะสารอาหารเหล่านี้ช่วยในการสร้างคอลลาเจน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากอันตรายและป้องกันการเสื่อมสลายของเซลล์ผิวและสภาพผิว
7. ดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความชุ่มชื่นของผิว และช่วยให้ผิวดูสดใส ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน (อย่างน้อย 1.5-2.0 ลิตรต่อวัน) หรือปริมาณที่เหมาะสมตามความต้องการของร่างกายแต่ละคน
การดูแลผิวกายที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่ควรทำให้เป็นกิจประจำวัน อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อให้ผิวสวยและมีสุขภาพที่ดี ควรใส่ใจในการดูแลทั้งภายในและภายนอก หากปฏิบัติตามแนวทางที่กล่าวถึงข้างต้น คุณจะมีสุขภาพผิวที่สมบูรณ์ ดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพที่ดีอย่างแท้จริง